M I N G estate NEWS

บิ๊กอสังหาฯไฮเอนด์ร่วมทุนพัฒนาดาราเทวีเชียงใหม่จ่อเซ็นสัญญาเดือนก.ย

IFEC แย้มชัดข่าวดีเตรียมเซ็นสัญญาร่วมทุนไรมอนแลนด์ต้นเดือนกันยายนนี้ ผุดโครงการไฮเอนด์มูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท บุ๊ครายได้ 1.17 พันล้านบาท แบ่งการผลิตไฟฟ้า 50% และโรงแรมดาราเทวี 50%

นายสิทธิชัย พรทรัพย์อนันต์ รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น (IFEC) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมแผนพัฒนาโครงการใหม่ในที่ดินของโรงแรมดาราเทวีโดยภายในเดือน ก.ย. นี้ ทางบริษัทจะเซ็นสัญญาร่วมลงทุน (JV) กับบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ (บริษัท ไรมอนแลนด์ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาโครงการระดับไฮเอนด์ อาทิ โครงการ 185 ราชดำริ) โดยทาง IFEC จะถือหุ้นในสัดส่วน 40-49% เพื่อพัฒนาโรงแรมขนาด 80 ห้อง และคอนโดฯ Luxury กว่า 200 ยูนิต พื้นที่ใช้สอยกว่า 50,000 ตารางเมตร ซึ่งบริษัทจะขายที่ดินบางส่วนของโรงแรมดาราเทวีขนาด 40 ไร่ มูลค่า 625 ล้านบาทให้บริษัทร่วมทุน เพื่อพัฒนาโครงการมูลค่าราว 5,000 ล้านบาท

“IFEC จะลงทุนเป็นเรื่องของที่ดิน ไม่ได้ลงเป็นตัวเงิน เพราะการพัฒนาโครงการจะเป็นภาระของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่จะเข้ามาร่วมลงทุน ซึ่งการร่วมลงทุนนี้ไม่เพียงเราจะได้รับการแบ่งกำไรจากการขายอสังหาริมทรัพย์เท่านั้น”

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว จะแบ่งการพัฒนาออกเป็น 2 เฟสใหญ่ เฟสละ 20 ไร่ โดยในเฟสแรกจะใช้เวลาในการก่อสร้างไม่เกิน 3 ปี อย่างไรก็ตาม บริษัทเตรียมเปิดขายโครงการเรสซิเดนซ์หรู 14 ยูนิต ราคาจะเริ่ม 1.8 – 2 แสนบาทต่อตารางเมตร พื้นที่ใช้สอย 3,440 ตารางเมตร และโครงการ Villa Suite จำนวน 2 ยูนิต ขนาดพื้นที่ใช้สอย 2,240 ตารางเมตร รวมมูลค่าโครงการ 780ล้านบาทภายในสิ้นปีนี้ด้วย

อย่างไรก็ดี ทางบริษัทพร้อมเร่งพัฒนากิจการ บริษัท โรงแรมดาราเทวี จำกัด (DDV) หลังศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้ออกจากแผนฟื้นฟูกิจการเมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้การขยายกิจการเป็นไปอย่างคล่องตัวมากขึ้น สามารถจัดการทรัพย์สินให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นได้อย่างเต็มที่ ซึ่งบริษัทได้วางแผนขยายธุรกิจอย่างครอบคลุมทั้ง ธุรกิจโรงแรมดาราเทวี ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจสปา การบริหารแบรนด์ และการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัทในประเทศเกาหลี เวียดนาม และออสเตรเลียที่ดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนที่มีการจ่ายกระแสไฟเชิงพาณิชย์ (COD) และมีสัญญาผลิตไฟฟ้า (PPA) จำนวน 200 เมกะวัตต์ โดยเป็นโครงการที่สร้างเสร็จแล้ว 100 เมกะวัตต์ และส่วนต่อขยายอีก 100 เมกะวัตต์ โดยบริษัทฯจะเข้าถือหุ้นในสัดส่วนราว 50% โดยจะสรุปการเจรจาในสัปดาห์หน้า

ดังนั้น บริษัทจึงมั่นใจว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าครบ 100 เมกะวัตต์ตามเป้าหมาย จากปัจจุบันมีกำลังผลิต 38 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นจากพลังงานแสงอาทิตย์ 21.5 เมกะวัตต์ ไบโอแมส 7.5 เมกะวัตต์ และพลังงานลม 10 เมกะวัตต์ รวมทั้งมีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างอีก 20 เมกะวัตต์

สำหรับผลประกอบการในปีนี้ บริษัทมั่นใจว่ารายได้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 2 พันล้านบาท เป็นการเติบโตจากปีก่อนมีรายได้ 1.17 พันล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากกำลังการผลิตไฟฟ้า 50% และรายได้จากโรงแรมดาราเทวีอีก 50% ส่วนปี 60 บริษัทคาดว่าธุรกิจไฟฟ้าจะมีสัดส่วนรายได้เพิ่มเป็น 80% และดาราเทวี 15% ขณะที่รายได้อื่น ๆ อยู่ที่ราว 5%

“ปีนี้โดยส่วนใหญ่แล้วผลการดำเนินงานมาจากการบันทึกกำไรพิเศษ แต่ในปีหน้าจะมาจากผลการดำเนินงานของธุรกิจหลัก ซึ่งเรายังมองหาการลงทุนใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าในประเทศยังไม่มีความคืบหน้าการให้ใบ PPA รอบใหม่ เราก็ออกไปหาที่ลงทุนในต่างประเทศแทน แต่หากในปีหน้ามีการเปิดประมูลโรงไฟฟ้าพลังงานลมในไทย IFEC จะเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีความสามารถเข้าประมูล เพราะมีความถนัดทางด้านนี้อยู่แล้ว

NEWS | Property tax

ค้นหา อสังหาริมทรัพย์